REVIEW | รีวิว Galaxy Z Filp 3 รอบสองของ Flip ฟีเจอร์ครบครันขึ้น ในราคาที่ถูกลง

516 จำนวนผู้เข้าชม  | 

REVIEW | รีวิว Galaxy Z Filp 3 รอบสองของ Flip ฟีเจอร์ครบครันขึ้น ในราคาที่ถูกลง

มือถือจอพับได้ เป็นอีกนวัตกรรมฟอร์มแฟกเตอร์ของสมาร์ทโฟน ที่ก่อนหน้านี้ดูจะมีแต่รูปทรงเดิมๆ ติดต่อกันมานานหลายปี จนกระทั่งมาเป็น Galaxy Z Flip ในปีก่อน ที่เปิดตัวมาในราคา 44,990 บาท แต่ยังมีสเปกที่ด้อยกว่า ไม่กันน้ำ หน้าจอแบบพับได้ก็ยังไม่แข็งแรงนัก แถมมีราคาสูง

มาคราวนี้ มือถือจอพับได้รุ่นใหม่ของ Samsung ที่แม้จะใช้ชื่อว่า Galaxy Z Flip 3 แต่เป็นรุ่นที่สองของตระกูล Z Flip ส่วนเลข 3 นั้น กระโดดข้ามมาเพื่อให้เข้ากันได้กับ Galaxy Z Fold 3 และดูเหมือนว่านอกจากตัวเลขที่ก้าวกระโดดแล้ว การพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ในการใช้งานจริงของ Z Flip 3 ก็ก้าวกระโดดจากรุ่นแรกพอสมควร แถมยังมาในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ที่ 34,900 บาท ไล่เลี่ยกับมือถือเรือธงตัวท็อปทั่วไปในปัจจุบัน

- สเปก

หน้าจอ AMOLED ด้านนอก 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260x512 พิกเซล
หน้าจอ AMOLED ภายใน 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640x1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz
ชิป Snapdragon 888
แรม 8GB
หน่วยความจำภายใน 128GB และ 256GB
กล้องหน้า 10MP
กล้องหลัง 2 กล้อง เป็นกล้องไวด์ กับอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP ทั้งคู่
แบตเตอรี่ 3,300mAh ชาร์จด้วย USB-C
กันน้ำ IPX8
รัน Android 11 ครอบด้วย One UI 3.5

- หน้าจอและลักษณะภายนอก

เริ่มต้นที่หน้าจอด้านนอกหรือ cover screen ที่ใหญ่ขึ้นจาก 1.1 นิ้วในรุ่นแรก เป็น 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260x512 พิกเซล เมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็ใช้งานได้จริงมากขึ้น ทั้งเพื่อถ่ายรูป หรือใช้เพื่ออ่านแจ้งเตือน โดยผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนสไตล์นาฬิกา หรือเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ของหน้าจอภายนอกได้ในการตั้งค่า


หน้าจอภายใน และการใช้งาน

เมื่อเปิดฝาเครื่องมา จะพบกับหน้าจอภายในที่คราวนี้เป็นหน้าจออัตรารีเฟรช 120Hz ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้น และสิ่งที่หลายๆ คนน่าจะสงสัยคือรอยพับตรงกลางจอ เห็นได้ชัดแค่ไหน คำตอบคือในการทั่วไป แทบจะไม่รู้สึกถึงรอยพับเลย หากไม่ตั้งใจขยับจอเครื่องให้สะท้อนกับแสง และหน้าจอมีความสว่างมากพอสู้แสงได้ทั้งในและนอกอาคาร แบตเตอรี่อยู่ได้เต็มวัน โดยไม่รู้สึกว่าน้อยกว่ามือถือปกติทั่วไป

เมื่อกางออกมาเต็มที่ ตัวเครื่องจะบางไม่แตกต่างจากมือถือเรือธงอื่นๆ ในปัจจุบัน ความรู้สึกหลักๆ จะคล้ายกับการใช้งานมือถือที่มีอัตราส่วนหน้าจอในทางยาวมากกว่าปกติ อาจต้องใช้การเอื้อมนิ้วเล็กน้อย เพื่อแตะส่วนบนสุดและล่างสุดของจอ

ช่วงข้อต่อของเครื่องค่อนข้างแข็ง เปิดปิดด้วยมือเดียวจะลำบากหน่อย อาจต้องใช้สองมือช่วยเปิด แต่ข้อดีคือทำให้ผู้ใช้สามารถกางหน้าจอค้างไว้กี่องศาก็ได้ โดยที่หน้าจอไม่ปิดหรือขยับเอง แต่เรื่องความคงทนในระยะยาว อาจจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะก็ยังพอมีรอยที่เศษผงจะเข้าไปในกลไกขยับได้บ้าง

- กล้องถ่ายภาพ

เรื่องกล้องอาจจะเป็นจุดที่ Galaxy Z Flip โดดเด่นน้อยที่สุด กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 10MP รูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหลังมี 2 กล้อง เป็นกล้องไวด์ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.8 กับกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP รูรับแสง f/2.2 ส่วน ซึ่งเป็นกล้องที่ใช้งานทั่วไปได้ดีตามมาตรฐาน Samsung แต่ไม่มีเซ็นเซอร์ระยะชัดลึก หรือเลนส์ซูมมาด้วย


สรุป

Galaxy Z Flip 3 เรียกได้ว่าเป็นมือถือจอพับรุ่นที่สองที่เติมเต็มส่วนที่ขาดของรุ่นแรกได้แทบทั้งหมด ทั้งสเปกเรือธง หน้าจออัตรารีเฟรช 120Hz ที่สว่างขึ้น ลำโพงคู่ และการกันน้ำ IPX8 และส่วนที่สำคัญที่สุดคือราคาที่ถูกลงมาจนจับต้องได้ที่ 34,900 บาท

แม้เรื่องกล้องจะไม่โดดเด่น และความทนทานของข้อต่อและจอพับ อาจต้องติดตามดูในระยะยาว แต่ถ้าชอบความแปลกใหม่และนวัตกรรมล้ำสมัย รวมถึงอยากได้มือถือที่หยิบขึ้นมาใช้เมื่อไรก็ทำให้คนต้องเหลียวมอง Galaxy Z Flip 3 น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่มีสไตล์มากที่สุดของปีนี้



ที่มา ข้อความ : https://www.blognone.com/

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้